My name is Atinut Galawig. Everyone call me Eye or sometimes Pop-Eye. I was born on 4 July 1993. Now I'm studying at Nakhon Si Thammarat Rajabhat University. My favorite color is grey brown and red. In the future I want to be an English teacher. Now, I'm a barista at coffee shop and also teach for the gifted child at my mother school.
Computer Assisted Instruction into Teaching
วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556
Adobe Captivate
Adobe Captivate
ทำความรู้จัก Adobe Captivate
โปรแกรม Adobe Captivate เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการสร้าง Movie ในรูปแบบสื่อเรียนการเรียนรู้ หรือสื่อการนำเสนอแบบมัลติมีเดีย เช่น การนำเสนอผลงาน การจับหน้าจอภาพเพื่อนำไปสร้างสื่อการเรียนรู้ การสร้างแบบทดสอบ รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอ เพื่อใช้สำหรับงานนำเสนอหรือผลิตสื่อการเรียนรู้ โดยโปรแกรม Adobe Captivate เป็นโปรแกรมที่ใช้สร้างชิ้นงานได้ง่ายและเร็ว
จุดเด่นของโปรแกรม Adobe Captivate
- สร้างสื่อเรียนรู้หรือสื่อนำเสนอมัลติมีเดียได้อย่างง่ายดาย
- ตัดต่อวิดีโอได้ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว
- สร้างสื่อเรียนรู้โดยการจับหน้าจอภาพ (Screen capture movie) ประกอบเสียงบรรยาย เหมาะสำหรับการนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน
- สร้างแบบทดสอบได้ง่าย
- นำเข้าไฟล์จากแหล่งต่างๆ ได้หลากหลาย
· ไฟล์รูปภาพ (Image) เช่น JPG, BMP, GIF
· ไฟล์เสียง (Sound) เช่น MP3, WAV
· เสียงบรรยายผ่านไมโครโฟน
· ไฟล์วิดีโอ (Video) เช่น AVI
· สไลด์จากโปรแกรม Microsoft Power Point (.PPT)
- ส่งออกไฟล์ได้หลายรูปแบบ
- Flash movie File (.swf) ลักษณะเช่นเดียวกับโปรแกรม Macromedia Flash
- HTML File (.html) สำหรับการนำไปใช้กับเว็บไซต์
- EXE File (.exe) สำหรับการนำไปใช้แบบ Stand alone คือ การแสดงผลโดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม Adobe captivate
- ควบคุมเวลาได้ง่าย โดยใช้ Virtual Timeline
- ดูตัวอย่างผลงานได้ทันที โดยไม่ต้อง Compile
- สนับสนุนการใช้งานร่วมกับ Macromedia Breeze ทำให้สามารถกำหนดเนื้อหาที่จะแสดงให้กับผู้ใช้ที่ต้องการได้ผ่านบราวเซอร์ โดยนำผลงาน (Publishing) ไปไว้ที่ Breeze Serve
- ฟอร์แมตที่เป็นมาตรฐานสนับสนุนโปรแกรมออกแบบบทเรียนออนไลน์ทุกประเภท ตามการรับรองของ SCORM 2004, SCORM 1.2 และ AICC ซึ่งสามารถนำไปใช้งานร่วมกับโปรแกรมออกแบบบทเรียนออนไลน์แบบ LMS (Learning Management System)
การเปิดใช้งานโปรแกรม Adobe Captivate
1. คลิกที่ Start Menu
2. คลิกที่ All Program
3. เลือกเมนู Adobe
4. คลิกที่ Captivate จะปรากฏหน้าจอแรกของโปรแกรม
ส่วนประกอบหน้าจอแรกของโปรแกรม Adobe Captivate
Ø Open a recent project
§ แสดงไฟล์ล่าสุดที่เคยบันทึกไว้ในโปรแกรม
§ เปิดไฟล์ที่เคยบันทึกไว้
Ø Record new project (สำหรับการเริ่มต้นใช้งานแนะนำให้ใช้งานตรงส่วนนี้)
§ สำหรับสร้าง movie
§ บันทึก movie (จับหน้าจอภาพ)
Ø Getting started tutorials แนะนำขั้นตอนการสร้าง Movie ด้วยโปรแกรม Adobe Captivateเริ่มตั้งแต่การบันทึก การแก้ไขตกแต่ง การส่งออก การนำเข้าไฟล์เสียง การสร้างส่วนตอบโต้ การใส่ลูกเล่นเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ ตามลำดับ
เริ่มต้นใช้งาน Adobe Captivate (การสร้าง Movie ใหม่)
1. เปิดโปรแกรม Adobe Captivate ขึ้นมา
2. คลิกตรง Record or create a new project จะปรากฏหน้าต่าง New project options
3. คลิกเลือกรูปแบบของการผลิตสื่อบทเรียน โดยการคลิกที่ Other
4. คลิกที่ Blank Project
ส่วนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate
1. Toolbar เป็นแถบที่เก็บเครื่องมือหลักของโปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้บ่อย
2. Storyboard เป็นมุมมองสไลด์ (Frame) โดยในตอนแรกที่เรียกเปิดโปรแกรมจะมี 1 Slide
(1 Frame)
3. Work Area เป็นพื้นที่การสร้าง Movie
4. Time Line เป็นส่วนกำหนดเวลาในการในการ Play Movie
5. Object Tools เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างวัตถุ
6. Alignment Tools เป็นเครื่องมือในการใช้จัดตำแหน่งวัตถุใน Work Area
(Computer-assisted language learning program)
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษา CALL
ผ่าน บาลโพธิ์ (2539) อธิบายลักษณะของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษา หรือCALL (Computer-assisted language learning program) ไว้ว่า
โปรแกรมช่วยเรียนภาษาเป็นชุดคำสั่งที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนภาษามีลักษณะเหมือนกับโปรแกรมช่วยการสอน
หรือ CAI คือ มีการเสนอเนื้อหาหรือเนื้อเรื่อง มีการถามการตอบ
มีการแนะนำและอธิบายแต่จะกว้างกว่า CALL เพราะ CAI บอกให้ทราบว่าเป็นโปรแกรมช่วยการสอนเท่านั้น
ส่วนจะสอนวิชาใดบ้างก็แล้วแต่ผู้สร้างโปรแกรม
แต่ CALL หมายถึงโปรแกรมช่วยเรียนภาษาโดยเฉพาะ
ใช้ได้ทั้งกับการเรียนในห้องเรียน โดยมีผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแลกระบวนการเรียน
และการให้ผู้เรียนเรียนจากโปรแกรมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ดวยตนเอง (Self-access learning center) หรือที่ศูนย์คอมพิวเตอร์และสำหรับสถานศึกษาทีมีความพร้อมก็อาจมอบแผ่นโปรแกรมให้ผู้เรียนนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานศึกษาโดยผ่านโมเด็มและสายโทรศัพท์
CALL
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษา
(CALL)
ความหมายของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนมาจากคำภาษาอังกฤษว่า Computer-Assisted
Instruction ซึ่ง ราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติศัพท์ป็นภาษาไทยว่า “การสอนใช้คอมพิวเตอร์ช่วย”แต่คำศัพท์ดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมใช้กัน โดยมักใช้คำว่า “คอมพิวเตอร์ช่วยสอน”กันมากกว่า หรือที่เรียกย่อๆว่า CAI นอกจากคำว่าคอมพิวเตอร์ช่วยสอนแล้ว
ยังมีคำศัพท์อีกหลายคำที่เกี่ยวข้องกับการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อการศึกษาแต่มีความหมายแตกต่างกันไป
นักการศึกษาได้ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนไว้
ดังต่อไปนี้
สุกรี รอดโพธิ์ทอง ( 2532:54 ) กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI เป็นการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนเนื้อหาหรือทบทวนวิชา
โดยเฉพาะในแต่ละหน่วยของเนื้อหาวิชาจะบอกถึงวัตถุประสงค์เฉพาะเพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำหนดกิจกรรมและการประเมินผล
มีการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเรียนรู้
และเทคนิคการออกแบบการสอนแบบต่างๆเพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ฉลอง ทับศรี ( 2538:1 ) กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เป็นบทเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียน ส่วนใหญ่มุ่งที่จะให้ผู้เรียนด้วยตนเองเป็นหลัก
ฉลอง ทับศรี ( 2538:1 ) กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เป็นบทเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียน ส่วนใหญ่มุ่งที่จะให้ผู้เรียนด้วยตนเองเป็นหลัก
สุรางค์
โคว้ตระกูล ( 2536:237 ) กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้เป็นรายบุคคล
ใช้ในการทบทวนบทเรียนการทำแบบฝึกหัด
การติวและการสร้างสถานการณ์จำลองช่วยในการสอนแก้ปัญหา
ล็อคคาร์ด (1990:164) ได้กล่าวว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์โดยตรงในการจัดการเรียนการสอนซึ่งเป็นสื่อสาร 2 ทิศทางกับคอมพิวเตอร์ในการตอบคำถามและการได้รับผลย้อนกลับในการตอบทันที
ประโยชน์ของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
1.ผู้เรียนสามารถโต้ตอบ
และมีปฏิสัมพันธ์กับบทเรียนคอมพิวเตอร์ สามารถรับรู้ข้อมูลย้อนกลับได้ทันที
2.ผู้เรียนสามารถเรียนซ้ำได้ตามต้องการ
3.บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
โดยการนำเสนอภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียง
สามารถสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้
4.ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าใจเนื้อหาที่เร็ว
5.ผู้เรียนมีความคงทนในการเรียนรู้สูง
เนื่องจากได้ปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง
6.สร้างความพึงพอใจแก่ผู้เรียน
ทำให้ผู้เรียนเกิดทัศนคติที่ดีต่อการเรียน
7.ทำให้ครูมีเวลาในการจัดกระบวนการเรียนรู้ได้มากขึ้น
8.ลดช่องว่างการเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนในเมืองและโรงเรียนชนบท
9.ประหยัดเวลาลังบประมาณในการจัดการเรียนการสอน
10.ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง
แก้ปัญหาและฝึกคิดอย่างมีเหตุผล
สรุป
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง การนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสอนโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์นำเสนอเนื้อหาให้แก่ผู้เรียน มีปฏิสัมพันธ์และการโต้ตอบระหว่างผู้เรียน พร้อมทั้งส่งผลย้อนกลับได้ทันที มุ่งให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง และสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)